ย่างก้าวเข้าสู่ช่วงปลายปีเตรียมต้อนรับปีใหม่ เมื่อลมหนาวเริ่มเข้ามาทักทายผู้คน เทศกาลที่อดจะกล่าวถึงไม่ได้เลย คือ เทศกาลคริสต์มาส เทศกาลแห่งความสุขที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนตามสถานที่ต่าง ๆ ล้วนประดับประดาไปด้วยต้นคริสต์มาส และดวงไฟระยิบระยับตกแต่งในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างสวยงาม ชวนให้มองแล้วเกิดความสดชื่น และมีความสุข
เทศกาลคริสต์มาสเมื่อครั้งที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖ ยังประทับ ณ ประเทศอังกฤษ ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งรอยยิ้มและความสุข ทั้งสองพระองค์จะโปรดให้จัดงานเลี้ยงพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร ข้าราชการสถานทูต และนักเรียนไทยในอังกฤษ
“…พระนางเจ้าสุวัทนาฯ ทรงเป็นแม่งานใหญ่ ทรงขะมักเขม้นเข้าครัวเตรียมอาหารด้วยพระองค์เองตั้งแต่เช้ามืด
…ข้าหลวงตำหนักหลุยส์เครสเซนต์เล่าถึงความทรงจำอันงดงามครั้งนั้นไว้ว่า
“พอถึงเดือนกันยา – ตุลา เสด็จพระนางฯ จะทรงเตรียมทำฟรุตเค้กและคริสต์มาสพุดดิ้งล่วงหน้าก่อนงานคริสต์มาสเป็นเดือน ๆ ทรงเตรียมแป้ง น้ำตาล ผลไม้แห้ง ถั่ว เครื่องเทศต่าง ๆ และเหล้าบรั่นดี หมักใส่ชามใหญ่ห่อผ้าเก็บไว้ใต้ถุนตำหนัก สองเดือนผ่านไปก็ได้ที่ พอวันงานก็ทรงนำมานึ่งอีกตั้ง ๔ – ๕ ชั่วโมงจนสุก แล้วราดด้วยบรั่นดีซอส …ไม่เคยรับประทานคริสต์มาสพุดดิ้งที่ไหน อร่อยเท่าของเสด็จพระนางฯ”
สำรับอาหารฝรั่งจัดตามประเพณีคริสต์มาสอย่างเต็มยศบนโต๊ะยาวในห้องเสวย ประกอบด้วย ไก่งวงตัวโตอบเหลืองอร่ามยัดไส้เกล็ดขนมปัง น้ำเกรวีสีน้ำตาลเป็นมันข้น แครนเบอรีซอสสีแดงสดสวย มันฝรั่งบดละเอียดสีเหลืองนวล ผักอบ และพายชนิดต่าง ๆ รวมทั้งของหวาน ได้แก่มินซ์พาย คริสต์มาสพุดดิ้ง และฟรุตเค้ก ตลอดจนเครื่องดื่มสำหรับหน้าหนาว ได้แก่ เอ๊กน็อก ซึ่งทำจากครีม มีน้ำตาล นมสด และ ไข่ไก่ นำมาปั่นแล้วเหยาะด้วยเหล้ารัมหรือบรั่นดีตามใจชอบ
…สิ่งที่สนุกสนานที่สุดก็คือ ในคริสต์มาสพุดดิ้งที่โปรดให้แจกจ่ายให้แขกทุกคน พระนางเจ้าสุวัทนาฯ จะทรงซ่อนเครื่องประดับเล็ก ๆ จำพวกจี้เงินกระจุ๋มกระจิ๋ม รูปเรือ กระดิ่ง แหวน เกือกม้า ฯลฯ ที่ฝรั่งเรียกว่าซิลเวอร์ชาร์มส์ (Silver charms) เป็นของนำโชคเอาไว้ การซ่อนจี้เงินเล็ก ๆ ไว้ในคริสต์มาสพุดดิ้ง เป็นประเพณีที่ชาวอังกฤษนิยมกันมาแต่โบราณ สมัยก่อนใช้เหรียญสามเพนนีหรือหกเพนนีก็ได้ ซ่อนไว้ ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นจี้เงินแทน เพราะเกรงว่าส่วนผสมแร่บางชนิดในเงินเหรียญอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถือกันว่าใครได้ซิลเวอร์ชาร์มส์ก็จะโชคดีไปตลอดศกหน้า เจ้าฟ้าหญิงทรงมีสร้อยพระกรซิลเวอร์ชาร์มส์ ๒ เส้น เส้นหนึ่งเป็นทองคำ ห้อยตัวอักษรเขียนว่า “Good Luck” อีกเส้นหนึ่งเป็นทองคำขาวเส้นนี้มีจี้ เล็ก ๆ ที่ทรงสะสมไว้ห้อยอยู่ถึง ๑๔ อัน…”
ครั้นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ เสด็จกลับมาประทับ ณ ประเทศไทยเป็นการถาวรแล้ว ยังคงโปรดให้จัดงานเลี้ยงพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และผู้ที่ปฏิบัติงานถวายแต่เปลี่ยนมาจัดในช่วงค่ำคืนของวันคริสต์มาสอีฟ คือวันที่ ๒๔ ธันวาคม ไม่ว่าสมเด็จเจ้าฟ้าฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ ประทับที่ใด จะโปรดให้จัดงานพระราชทานเลี้ยงคริสต์มาสสำหรับข้าราชบริพารและผู้ปฏิบัติงานถวาย ส่วนสำรับอาหารที่ทรงจัดพระราชทานก็ละม้ายคล้ายกับที่ทรงทำสมัยประทับที่อังกฤษ โดยมีการเพิ่มรายการอาหารไทย เช่น ไก่ย่าง ไก่ทอด ส้มตำ ฯลฯ สำหรับผู้ปฏิบัติงานที่ไม่คุ้นชินกับอาหารฝรั่ง บรรยากาศรื่นเริงในงานที่เคยเป็นมาอย่างไร ก็ยังคงมีไม่ผิดแผกไปจากเดิม
ดังนั้น เทศกาลคริสต์มาส จึงเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของชาววังรื่นฤดีเช่นกัน การจัดงานเลี้ยงคริสต์มาส เป็นสัญลักษณ์แห่งพระเมตตาที่ทรงมีต่อข้าราชบริพาร และผู้ปฏิบัติงานถวายตลอดช่วงปีที่ ผ่านไป สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงถือว่าเป็นการตอบแทนน้ำใจจงรักภักดี และความตั้งใจที่เหล่าข้าในพระบาทของพระองค์ได้ทำงานถวายอย่างเต็มกำลังความสามารถ
แม้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ ผู้ทรงเป็นมิ่งขวัญของชาวรื่นฤดี จะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่มูลนิธิเพชรรัตน–สุวัทนา ก็ยังคงสืบสานธรรมเนียมในการจัดเลี้ยงคริสต์มาสมาจนถึงปัจจุบัน
เพื่อระลึกถึงพระเมตตาการุญของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ และพระนางเจ้าสุวัทนาฯ รวมทั้งเป็นการตอบแทนน้ำใจเจ้าหน้าที่ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้อุตสาหะร่วมกันดำเนินงานของมูลนิธิฯ ซึ่งมีพันธกิจสืบสานพระปณิธานของราชนารีทั้งสองพระองค์สืบไป
มูลนิธิเพชรรัตน – สุวัทนา ขอส่งความสุขวันคริสต์มาสแด่ทุกท่านด้วยความปรารถนาดี