วันที่ ๑ กรกฎาคมของทุกปี เป็น “วันคล้ายวันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิด “ลูกเสือไทย”
“ลูกเสือ” เป็นกิจการสำคัญหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๕๔ ด้วยทรงเห็นว่าบ้านเมืองนั้นมี “เสือป่า” คือ ข้าราชการและพลเรือนที่ได้เรียนรู้วิชาทหารแล้ว ฉะนั้น เด็กผู้ชายทั้งหลายก็สมควรได้รับการฝึกฝนให้มีความรู้และทักษะในการเรียนรู้และการดำรงชีวิตเช่นเดียวกับเสือป่า เพื่อเป็นการปลูกฝังระเบียบวินัย รู้รักสามัคคี และรักชาติบ้านเมือง เมื่อเติบใหญ่พวกเขาเหล่านั้นจะได้ประพฤติตัวเป็นยุวชนที่มีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งกองลูกเสือกองแรกขึ้นที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง หรือวชิราวุธวิทยาลัย ในปัจจุบัน และจัดตั้งกองลูกเสือตามโรงเรียนต่าง ๆ รวมถึงกำหนดข้อบังคับลักษณะการปกครองลูกเสือขึ้น
สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระราชธิดาพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงสำนึกในพระทัยอยู่เสมอว่ากิจการงานใดที่เป็นของสมเด็จพระบรมชนกนาถก็เท่ากับเป็นกิจการงานของพระองค์ที่จะทรงต้องสืบสานไว้มิให้บกพร่อง “ลูกเสือ” จึงเป็นกิจการสำคัญหนึ่งที่พระองค์ต้องทรงสืบสานและทำนุบำรุง เพื่อยังประโยชน์มหาศาลแก่ชาติบ้านเมือง
สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ทรงดำรงตำแหน่งองค์อุปถัมภิกาคณะลูกเสือแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ นับแต่นั้นมาได้พระราชทานพระอุปถัมภ์แก่คณะลูกเสือแห่งชาติมาโดยตลอด อาทิ พระราชทานเงินก่อสร้าง “เรือนพยาบาลเจ้าฟ้าเพชรรัตน์” เพื่อเป็นหน่วยพยาบาล ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี ทรงรับค่ายลูกเสือเพชรรัชต์ไว้ในพระอุปถัมภ์ ในส่วนของสโมสรลูกเสือต่าง ๆ ทรงรับสมาคมสโมสรลูกเสือวิสามัญแห่งประเทศไทย และสโมสรลูกเสือกรุงเทพไว้ในพระอุปถัมภ์ นอกจากนี้ ยังเสด็จไปทรงเยี่ยมค่ายชุมนุมลูกเสือแห่งชาติประจำปีอยู่บ่อยครั้ง
ด้วยพระกรุณาธิคุณอันเป็นอเนกประการที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงมีต่อกิจการลูกเสือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๓
ครั้นถึงวาระที่สุดในงานพระศพ กระทั่งพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ พร้อมด้วยฉลองพระองค์เครื่องแบบลูกเสือขององค์อุปถัมภิกาคณะลูกเสือแห่งชาติ ก็ได้ทอดถวายหน้าพระโกศพระศพ และเชิญเข้าริ้วขบวนพระอิสริยยศแห่เชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพไปยังพระเมรุ ท้องสนามหลวง สมพระเกียรติยศราชนารีผู้เป็นพระราชธิดาของพระผู้ทรงสถาปนากิจการลูกเสือไทย ผู้ทรงเอาพระหฤทัยใส่สืบสานอุปถัมภ์บำรุงกิจการนี้มาอย่างต่อเนื่องและยาวนานโดยตลอดพระชนมชีพ