เรื่องเล่าพระผู้ทรงก่อตั้งมูลนิธิเพชรรัตน-สุวัทนา เจ้านายของข้าพระบาท

แม้สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ล่วงลับไปเป็นเวลากว่า ๑๑ ปีแล้ว แต่พระจริยวัตรอันงดงาม และพระกรุณาธิคุณยังคงประทับอยู่ในหัวใจของผู้ที่เคยได้มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ได้สัมผัสกระแสพระเมตตาการุญของพระองค์ ด้วยเหตุที่พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖ ทรงอบรมบ่มพระนิสัยให้สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ มีน้ำพระทัยกตัญญูกตเวทีเป็นพื้นฐานแห่งพระอัธยาศัย โดยไม่คำนึงถึงชนชั้นวรรณะ ทรงเอาพระทัยใส่ดูแลผู้ที่เป็นข้าในพระองค์ และทรงพร้อมเสมอที่จะทรงสนองน้ำใจอย่างเต็มที่ต่อผู้จงรักภักดีหรือผู้ปฏิบัติกิจสนองพระเดชพระคุณด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ มีพระวาจาสุภาพนุ่มนวลกับทุกๆ คน ผู้ที่ถวายงานใกล้ชิดย่อมทราบดี

“นี่อะไรจ๊ะ ไม่โปรดจ้ะ” พระดำรัสของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ที่คุณพยาบาลประจำพระองค์ได้เล่าไว้ครั้งหนึ่งที่ได้เคยถวายครีมทาพระฉวีที่พระพักตร์ แต่พระองค์ไม่โปรด หรือแม้ขณะไม่สบพระอัธยาศัยในสิ่งหนึ่งประการใด ก็ไม่เคยมีผรุสวาทกราดเกรี้ยว ถึงจะมีรับสั่งแสดงพระอารมณ์ ก็ยังต้องลงท้ายด้วยคำว่า “จ้ะ” ทุกครั้ง เช่น “นี่ โกรธแล้วนะจ๊ะ” แล้วจะไม่ทรงต่อว่าอะไรรุนแรงต่อไปเลย

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ โปรดความเรียบง่าย ไม่ทรงถือพระองค์ และทรงเปี่ยมด้วยน้ำพระทัยเมตตาต่อข้าราชบริพารและข้าหลวงทุกคนอย่างเสมอภาค ข้าในพระองค์หรือผู้ที่ทรงรู้จักคุ้นเคยคนใด เมื่อถึงเวลาออกเรือนก็พระราชทานสมรสหรือเงินทุน ถึงยามแก่เฒ่าทำงานไม่ไหวหรือยามป่วยไข้ก็ทรงรับไว้ในพระอนุเคราะห์ไม่ทอดทิ้ง

ฉะนั้นแล้ว ในสายตาของข้าวังรื่นฤดี เจ้านายที่ทรงพระกรุณาถึงปานนี้ จะไม่ให้จงรักภักดีด้วยใจสุจริตได้อย่างไร จึงไม่แปลกเลยที่ข้าน้ำคนหลวงในวังรื่นฤดีจะอยู่ถวายงานกันตั้งแต่ยังหนุ่มสาวจนกระทั่งแก่เฒ่า ในเมื่อเจ้านายทรงห่วงใยในสุขและทุกข์ของข้าราชบริพาร สิ่งใดที่จะช่วยบำรุงความสุขหรือปัดเป่าความทุกข์ของข้าในพระองค์ได้ สิ่งนั้นก็ทรงเลือกที่จะทำเสมอ ใครได้มี “เจ้านาย” ผู้มีเมตตากรุณาเยี่ยงนี้ จึงนับได้ว่าเป็นโชควาสนาอย่างยิ่ง

ชมวีดิทัศน์การบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์